[x] ปิดหน้าต่างนี้




เมนูหลัก
โรงเรียน
ระบบงาน
ประวัติพระโอภาสพุทธิคุณ

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
วัดระยะห่างฝีเท้า ธีรศิลป์ หากไทยเจอญี่ปุ่นคงเป็นแรงกระตุ้นที่ดี  VIEW : 324    
โดย qq

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 49
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 5
Exp : 65%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 113.53.45.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2563 เวลา 14:03:31   



[ คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดจริง ]

         หัวหอกช้างศึก มองว่าหากมีโอกาสดวลทัพซามูไรอีกครั้ง คงเป็นแรงกระตุ้นที่ดีในการวัดระยะห่างฝีเท้าว่าพัฒนาไปมากกว่าเดิมหรือไม่
        ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้า ชิมิสุ เอสพัลส์ ยอมรับว่า หากทีมชาติไทยมีโอกาสโคจรมาพบทีมชาติญี่ปุ่นอีกครั้งคงเป็นเรื่องดีเพื่อชี้วัดถึงระยะความห่างชั้นว่าตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ หลังนักเตะไทยมีพัฒนาการมากขึ้นจากการค้าแข้งในศึกเจลีก
        ช่วงที่ผ่านมามีนักเตะดีกรีทีมชาติไทย ชุดใหญ่ย้ายไปประสบความสำเร็จในศึกเจลีก ญี่ปุ่น อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพตัวหลัก คอนซาโดเล ซัปโปโร ธีราทร บุญมาทัน ที่ช่วย โยโกฮามา เอฟ มารินอส คว้าแชมป์ลีก 2019 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ โออิตะ ทรินิตะ และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ปัจจุบันค้าแข้งแดนซามูไรเป็นหนสองกับ ชิมิสุ เอสพัลส์ ซึ่งทำให้ฝีเท้ามีการพัฒนา รวมถึงผู้เล่นใหม่ที่ถูกเรียกมาติดทีมที่อาจทำให้ทัพช้างศึกแข็งแกร่งมากขึ้น
         “หากทีมชาติไทยกับญี่ปุ่นเจอกันก็คงเป็นแรงกระตุ้นที่ดี” หัวหอกช้างศึก เริ่มกล่าว
         “จริงๆพวกเราก็อยากทำผลงานให้ดีเวลาเจอญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้อาจจะมีเจอกันมาแล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมาเรามีการพัฒนามากขึ้น มีผู้เล่นใหม่เข้ามา การจัดการเป็นระบบมากขึ้น เราก็อยากเห็นว่าที่ทำมาแล้วมาเจอกันอีกครั้งเราพัฒนามาถูกทางไหม ทำให้ระยะห่างที่เคยมีเป็นอย่างไรบ้าง หรืออาจมันแทบไม่ห่างเลยก็ได้อะไรแบบนี้”
          “การที่มีนักเตะไทยอยากมาเล่นเจลีกเป็นเรื่องที่ดี” กองหน้าวัย 31 ปี กล่าวต่อ “ผมยอมรับว่า การมาเจลีกทำให้ตัวเองพัฒนาขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องสปีดฟุตบอล แต่มีหลายอย่างที่สามารถเรียนรู้เพิ่มขึ้นอย่าง เจ , อุ้ม ต่างพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมได้ ในเมื่อนักฟุตบอลไทยอยากมาเล่นเจลีกมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี”
          “การมาที่นี่ทำให้น้องๆสามารพัฒนาตัวเองได้ทำให้ฟุตบอลไทยหรือทีมชาติแข็งแกร่งขึ้น การมีนักเตะไทยมาเล่นเจลีกจะทำให้ผู้เล่นมีคุณภาพมากขึ้น เวลากลับไปเล่นทีมชาติก็จะมีคุณภาพที่มากขึ้นเช่นกัน”
          “ส่วนตัวผมมองว่า คุณภาพระหว่างไทยลีกกับเจลีกนั้นมีความแตกต่างเยอะ อาจเพราะลีกเขามีมาก่อน มันตกตะกอนจนพัฒนาต่อยอดไปได้ หลักๆแล้วมีการทำงานที่หนักกว่า เรื่องวินัยที่เราเห็นๆอยู่แล้วไม่ใช่แค่ในสนาม วินัยการเล่นตำแหน่งของตัวเอง เรื่องสปีด การเคลื่อนที่ต่างๆมันต้องเกิดขึ้นเร็ว และบ่อยกว่าที่ไทย”
           “ตัวผมเองยังมีสิ่งที่โค้ช(ปีเตอร์ ชคลามอฟสกี กุนซือ ชิมิสุ เอสพัลส์) พยายามบอกให้เพิ่มเติม เขาจะบอกสิ่งที่ต้องการในแต่ละอย่าง ถ้าโค้ชอยากให้ทำแบบไหนก็จะให้เราปรับการซ้อมไปเรื่อยๆ”
           “แต่ละทีมมีวิธีการเล่นที่ต่างกันเป็นลักษณะเฉพาะเพื่อพยายามให้มีความแตกต่าง แน่นอนการเล่นที่ ชิมิสุ แตกต่างกับ ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิมา ทั้งเรื่องรูปแบบรวมถึงแทคติก ตอนนี้ตัวผมเริ่มชินกับฟุตบอลเจลีกที่ต้องใช้สปีดสูง และความแข็งแรงร่างกาย”
           “ช่วงที่ผ่านมาได้ซ้อมได้เรียนรู้สปีดวิธีการต่างๆ ก็คิดว่าชินแล้วกับสปีดฟุตบอลในเจลีกเหลือเพียงวิธีการเล่นกับเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น แต่ยอมรับว่า ยังอยู่ช่วงปรับตัว แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ” ธีรศิลป์ ปิดท้าย
             สำหรับ ทีมชาติไทย เคยพบ ทีมชาติญี่ปุ่น หนล่าสุดในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม โดยบุกแพ้ด้วยสกอร์ 0-4 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2017 ในยุคของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเป็นกุนซือคุมทัพ

พนันบอลออนไลน์






Warning: Missing argument 2 for DB::num_rows(), called in /home/opatacth/domains/opat.ac.th/public_html/web/modules/webboard/read.php on line 584 and defined in /home/opatacth/domains/opat.ac.th/public_html/web/includes/class.mysql.php on line 132

Warning: Missing argument 3 for DB::num_rows(), called in /home/opatacth/domains/opat.ac.th/public_html/web/modules/webboard/read.php on line 584 and defined in /home/opatacth/domains/opat.ac.th/public_html/web/includes/class.mysql.php on line 132